ชื่อพระเครื่อง | พระหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ พิมพ์นางพญา จ.อยุธยา สวยๆ |
รายละเอียด | ประวัติหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ จ.พระนครศรีอยุธยา
อัตโนประวัติ หลวงพ่อขัน อินทปัญโญ เกิดในสกุล คงสุขี เมื่อปี พ.ศ.2415 ตรงกับขึ้น 8 ค่ำ เดือน 8 ปีวอก ที่ ต.วัดยม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายชื่น และนางส่วน คงสุขี เป็นบุตรชายคนโตในจำนวนพี่น้อง 4 คน ในปีที่ ด.ช.ขัน ถือกำเนิด ครอบครัวมีฐานะดีขึ้น ทำกิจการงานประสบผลสำเร็จ ทำให้โยมบิดา-มารดา รักใคร่เอ็นดูบุตรชายคนโตยิ่ง เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดวังตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา ตรงกับ พ.ศ.2435 โดยมีพระพุทธวิหารโสภณ (อ่ำ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ส่วนนามพระอุปัชฌาย์ ไม่ทราบชัด ได้รับฉายาว่า "อินทปัญโญ"ภายหลังอุปสมบทได้อยู่จำพรรษา 3 พรรษา ท่านออกธุดงค์ ปฏิบัติธรรมะ ศึกษาเพิ่มเติมจากพระธุดงค์ที่อยู่ในป่าลึก เมื่อท่านเดินทางกลับ ปรากฏว่า วัดญาณเสนว่างสมภาร ชาวบ้านพร้อมใจกันนิมนต์ท่านไปเป็นสมภารได้ 3 พรรษา และย้ายมาอยู่จำพรรษาวัดนกกระจาบและที่วัดนกกระจาบนี้เอง ชื่อเสียงของท่านโด่งดังขจรขจายไปทั่ว การปฏิบัติและปฏิปทาของท่าน น่าเลื่อมใสเคร่งในธรรมวินัย ไม่สะสมทรัพย์สมบัติ ยึดสันโดษ หลวงพ่อขัน ได้มีโอกาสไปกราบและขอฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อเรียนพระคาถาอาคมกับหลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง และยังเป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จนมีโอกาสได้รู้จักและคุ้นเคยกับกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เป็นอย่างดี ในฐานะศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน โดยกรมหลวงฯเรียกหลวงพ่อขันอย่างสนิทสนมว่า หลวงพี่ ครั้งหนึ่งกรมหลวงชุมพรท่านเสด็จทางเรือผ่านท่าน้ำหน้าวัดนกกระจาบก็ทรงหยุดพักที่ศาลาท่าน้ำ พระองค์ทรงนึกอะไรไม่ทราบ ทรงใช้ปืนสั้นเล็งยิงที่ช่อฟ้าพระอุโบสถ์วัดนกกระจาบ ลั่นไก ดัง แชะๆ หลายครั้ง ปรากฏว่ายิงไม่ออก ท่านจึงหันมาตรัสกับมหาดเล็กที่ตามเสด็จว่า เจ้าอาวาสวัดนี้ แน่จริงๆ ขนาดช่อฟ้ายังยิงไม่ออกจากนั้นท่านจึงเสด็จขึ้นไปบนกุฎิไปสนทนากับหลวงพ่อขัน อย่างสนิทสนม สร้างความงุนงงแก่คณะติดตามมาก เมื่อทราบว่าเป็นศิษย์พระอาจารย์องค์เดียวกัน กล่าวกันว่ากรมหลวงชุมพรให้หลวงพ่อขันท่านช่วยสักยันต์แต่เนื่องจากพระองค์สักยันต์ทั่วทั้งพระวรกายแล้ว หลวงพ่อขันท่านจึงสักยันต์ เฑาะว์ให้พระองค์ที่พระศอ(คอบริเวรลูกกระเดือก) หลวงพ่อขัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือมาก ใครได้สักยันต์กับท่านและทำตามข้อกำหนดของท่าน จะมีแต่ปลอดภัยแคล้วคลาดอยู่ยงคงกระพัน จนได้รับการกล่าวขวัญจากชาวกรุงศรีอยุธยาว่า "ใครที่สักยันต์และบูชาเหรียญของหลวงพ่อขัน จะถูกฟันถูกตีก็ไม่ต้องกลัว" ครั้นหนึ่ง ลูกศิษย์ของหลวงพ่อขัน ถูกนักเลงถิ่นอื่นดักทำร้ายทุบตี แต่ปรากฏว่า ตีเท่าไรก็ไม่แตก ไม่เจ็บ ไม่บอบช้ำ สร้างความประหลาดใจให้กับนักเลงถิ่นอื่นเป็นอย่างยิ่ง เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ลูกศิษย์ของหลวงพ่อขัน นิยมให้หลวงพ่อสักยันต์บ้าง ลงกระหม่อมบ้าง ปรากฏในทางคงกระพันชาตรีเป็นเยี่ยม หลวงพ่อขัน เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยชอบเดินธุดงค์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามป่าดงยึดสันโดษ ไม่สะสมทรัพย์ ทำให้มีสาธุชนให้ความเลื่อมใสศรัทธามาก สำหรับวัตถุนิยมของหลวงพ่อขันที่ได้รับความนิยมสูง คือ เหรียญรูปตัวท่าน เป็นเหรียญเสมานั่งเต็มองค์ ด้านล่างมีข้อความว่า "พระอาจารย์ขัน" หูเชื่อม เป็นเหรียญที่สวยงามและมีราคาเช่าบูชากันแพงมาก ด้านวัตถุมงคลเนื้อดินเผาที่รู้จักกันแพร่หลายเป็นที่โด่งดังทั่วไป คือ พระเนื้อดินเผาพิมพ์แซยิดและพิมพ์นางพญาฐานผ้าทิพย์ โดยไม่ทราบปีที่สร้างแน่นอนเช่นเดียวกับวัตถุมงคลอื่นๆ ยกเว้นเหรียญรุ่นแรกรุ่นเดียวที่ทราบ เพราะบนเหรียญรุ่นแรกนี้ จะมีระบุปีที่สร้างแน่นอน คือ พ.ศ.2407 แต่มีหลักฐานที่บันทึกไว้ว่าน่าจะสร้างในช่วงเดียวกันกับเหรียญรุ่นแรกครับ พระดินเผานี้ เป็นพระที่มีพุทธศิลป์สวยงามมาก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พุทธคุณนั้นเป็นเอกอุด้านคงกระพันหนังเหนียว และแคล้วคลาดปลอดภัยอย่างยิ่ง หลวงพ่อขัน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรกับพุทธศาสนิกชนทั่วไป กระทั่งถึงปี พ.ศ.2486 ท่านได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยสติสัมปชัญญะที่ครบบริบูรณ์ สิริอายุได้ 72 ปี พรรษาที่ 52 ทุกวันนี้ เกียรติคุณความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อขันยังเป็นที่กล่าวขวัญสืบมาจนถึงปัจจุบันครับ |
ราคาเปิดประมูล | 100 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 2,100 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
วันเปิดประมูล | - 04 ต.ค. 2558 - 23:15:03 น. |
วันปิดประมูล | - 07 ต.ค. 2558 - 17:40:28 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | Juicy (3.4K)
|