ชื่อพระเครื่อง | ~~ เหรียญพุทธกวัก หลวงพ่อคงทอง(เต๋) วัดสามง่าม..2502 .เหรียญสวย มา เดิมๆ ห่วงหู อยู่ครบ . .ใส่ราคากันเลย.. |
รายละเอียด | เหรียญพิมพ์พุทธกวัก หลวงพ่อคงทอง(เต๋)วัดสามง่าม จ.นครปฐม เป็นเหรียญรุ่น 4 สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2502
เหรียญรุ่นนี้ของหลวงพ่อเต๋ จัดว่าได้รับความนิยมและมีประสบการณ์เป็นอย่างมาก จนมีชื่อเรียกเหรียญนี้กันว่า "เหรียญหยุดปืน"
วัตถุมงคลของหลวงพ่อเต๋ จะสังเกตได้ว่า มีการสร้างขึ้นมาหลายครั้ง หลายรุ่น ก็เพราะเนื่องจาก "ของท่านมีประสบการณ์ " นั่นเอง
ซึ่งก็แสดงได้ถึงศรัทธาที่มีต่อองค์หลวงพ่อเต๋ได้เป็นอย่างดีว่า วัตถุมงคลของท่านนั้น มีพุทธคุณเป็นเลิศขนาดไหน
เหรียญพุทธกวัก โดยหลวงพ่อเต๋ ช่วยกวักเงิน กวักทอง ข้าวของ ชื่อเสียง เกียรติยศ โชคลาภ นำความโชคดี ร่ำรวยมาสู่ท่านได้
* * * * เหรียญนี้ บล็อคนิยม อุขึ้น * * * *
หลวงพ่อเต๋ คงคสุวัณโณ
ชาวบ้านเรียกติดปากว่า หลวงพ่อเต๋ คงทอง
วัดอรัญญิการาม (วัดสามง่าม) อ.ดอนตูม จ.นครปฐม
หลวงพ่อเต๋ คงทอง เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2434 ณ บ้านสามง่าม หมู่ที่ 4
โยมบิดาชื่อ จันทร์ โยมมารดาชื่อ บู่ นามสกุล สามงามน้อย ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม 7 คน
เป็นชาย 3 คน เป็นหญิง 4 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 5
เมื่ออายุได้ 7 ปี ลุงของท่านซึ่งบวชอยู่ที่วัดกาหลง จังหวัดสมุทรสาคร มีชื่อว่า หลวงลุงแดง
เป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนั้นรูปหนึ่ง ได้ไปเยี่ยมญาติที่บ้านสามง่าม ได้พบหลานชาย
จึงได้ชวนให้ไปอยู่ด้วยกันที่วัดกาหลงเพื่อจะได้ศึกษาเล่าเรียน หนังสือ ธรรมะ และเวทมนต์คาถา เป็นเวลา 3 ปี
จนสามารถเขียนอ่านได้เป็นอย่างดี จึงได้กลับมาบ้านเกิด
หลวงลุงแดงของหลวงพ่อเต๋ ท่านเป็นผู้สนใจในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง
ท่านเห็นว่าบ้านสามง่าม ควรจะมีวัดวาอารามสำหรับให้พระภิกษุและชาวบ้านประกอบกิจทางพระพุทธศาสนา
จึงได้ชักชวนหลานชายไปสร้างวัดขึ้นที่บ้านดอนตูม ห่างจากบ้านสามง่ามประมาณ 3 กิโลเมตร
เมื่อหลวงพ่อเต๋ มีอายุได้ 15 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่กับหลวงลุงแดง
ร่วมจัดสร้างวัดใหม่ไปพร้อมกัน รวมทั้งได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงลุงแดง
ประวัติหลวงลุงแดงท่านเป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีความเชี่ยวชาญ พุทธาคม
ทั้งทางด้านเมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพันชาตรี มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพนับถือมากมาย
อีกทั้งหลวงพ่อเต๋ มีศักดิ์เป็นหลานของท่าน จึงได้รับถ่ายทอดวิชามาอย่างครบถ้วนโดยไม่มีการปิดบังอำพราง
พ.ศ.2454 ท่านมีอายุได้ 21 ปี จึงได้ทำการบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
โดยมี พระครูอุตตรการบดี (หลวงพ่อทา) วัดพะเนียงแตก เป็นพระอุปัชฌาย์
พระสมุห์เทศ วัดทุ่งผักกูด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการจอม วัดลำเหย เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาทางธรรมว่า คงทอง (ภายหลังเปลี่ยนเป็น คงสุวัณโณ แต่ชาวบ้านยังคงเรียกติดปากว่า คงทอง)
พระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อเต๋ คือ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
เป็นพระเถระผู้ทรงเกียรติคุณชื่อเสียงโด่งดังมากในฐานะพระเกจิอาจารย์ ที่มีพุทธาคมเข้มขลังในขณะนั้น
หลวงพ่อเต๋ได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งทางธรรม สมถกัมมัฏฐาน ตลอดจนรับการสืบทอดด้านพุทธาคมต่าง ๆ
ต่อมาไม่นาน หลวงลุงแดง มรณภาพลงที่วัดกาหลง สมุทรสาคร
ก่อนมรณภาพท่านได้ฝากวัดสามง่ามให้หลวงพ่อเต๋ดูแล
หลวงพ่อเต๋ เริ่มออกธุดงค์ระหว่าง พ.ศ. 2455 – 2472 เป็นเวลา 17ปี
รวมทั้งศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติม นอกจากที่ได้ศึกษาจาก หลวงลุงแดง และ หลวงพ่อทา
หลังจากหลวงพ่อทา มรณภาพแล้ว ท่านได้เดินทางไปขอศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง
จากนั้นออกธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ และได้ศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับพระอาจารย์อื่น ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส
อาทิ หลวงพ่อกอน วัดบ่อตะกั่ว นอกจากนี้ท่านยังเดินทางไปเรียนกับพระอาจารย์ทางจังหวัดพิจิตร
ยังมีอีกหลายรูปในขณะที่เดินธุดงค์ รวมทั้งอาจารย์ฆราวาส ท่านเป็นชาวเขมร เคยเป็นอดีตแม่ทัพเขมร
หลวงพ่อเต๋ได้พบอาจารย์ท่านนี้ที่เขาตะลุง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอาจารย์ที่หลวงพ่อเต๋ เคารพนับถือมาก
ในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ท่านจะทำการไหว้ครูเขมรมิได้ขาด
ภายหลังท่านกลับมาพำนักที่วัดสามง่ามได้ 3 ปี
ท่านทำการสร้างวัดสามง่ามต่อจากหลวงลุงแดงที่ฝากฝังไว้ให้ท่านสร้างต่อ ก่อนจะมรณภาพ
สมัยก่อน อุปกรณ์การก่อสร้างต่าง ๆ หาได้ยากมาก เรื่องไม้ที่จะนำมาสร้างวัดต้องเข้าไปเอาในป่าลึก
กว่าจะได้ไม้มาแต่ละเที่ยวยากลำบาก การออกไปตัดไม้แต่ละเที่ยว ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 - 3 เดือน
และการนอนป่าหลวงพ่อเต๋ ก็มักจะใช้การตัดไม้ใหญ่เป็นที่พำนักอาศัย การเดินทางไปตามถิ่นต่าง ๆ ก็เพื่อประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา
ท่านจึงไม่กลัวต่อภยันตรายทั้งเสือ ช้าง อันเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย ตลอดจนสิ่งแวดล้อมภายในป่าที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดเวลา 15ปี
ในการตัดไม้มาก่อสร้างปฏิสังขรณ์วัดของท่าน บางครั้งถึงกับอดน้ำ นับว่าเป็นความอุตสาหะมานะอันแรงกล้าอย่างประเสริฐสุดหาที่เปรียบมิได้
ในการพัฒนา หลวงพ่อเต๋ เป็นนักพัฒนาหาตัวจับยาก สร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง
สร้างสถานีอนามัย บ้านพักนายแพทย์และพยาบาล โรงเรียนประถมและมัธยม สถานีตำรวจ ถนนหนทาง ขุดบ่อน้ำบาดาล
หลวงพ่อเต๋ เป็นผู้กอปรด้วยความเมตตาปรานี ท่านจะให้ความรักความเมตตาแก่ศิษย์ทุกคนโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
นอกจากนี้ท่านยังให้ความเมตตาต่อสัตว์เลี้ยง ได้แก่ วัว ชะนี นก สุนัข แมว ไก่ เป็นต้น ไม่ว่านก สุนัข ไก่ และแมว
ก่อนท่านจะฉันภัตตาหาร ท่านจะต้องให้ข้าวสัตว์เหล่านี้เป็นนิจสิน
พ.ศ. 2475 กรรมการสงฆ์จังหวัดโดย พระเทพเจติยาจารย์ วัดเสน่หา เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม
ได้พิจารณาแต่งตั้งให้ หลวงพ่อเต๋ เป็นเจ้าอาวาสวัดสามง่าม
พ.ศ. 2476 แต่งตั้งให้ท่านรักษาการในตำแหน่งเจ้าคณะตำบล มีวัดที่ขึ้นอยู่ในความปกครอง 5 วัด
คือ วัดสามง่าม วัดลำลูกบัว วัดแหลมมะเกลือ วัดทุ่งสีหลง และวัดตะโกสูง
การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อเต๋ ท่านสร้างไว้หลายแบบมาตั้งแต่ครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2
มีทั้งแบบพระเนื้อดิน เนื้อผง เนื้อว่าน
เหรียญรูปเหมือน พระกริ่ง รูปหล่อ เหรียญหล่อ
เครื่องรางของขลัง ตะกรุดหนังเสือ ตะกรุดสามห่วง สีผึ้ง เป็นต้น
แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้
พระเครื่องของท่านไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงาม แต่เน้นเรื่องพุทธคุณ เพราะท่านตั้งใจสร้างให้บูชาติดตัวเพื่อป้องกันภัยต่าง ๆ
มีทั้งทางมหาอำนาจ เมตตามหานิยม แคล้วคลาด เนื้อพระส่วนมากเป็นแบบเนื้อดินผสมผงปนว่าน
เนื้อดินอาถรรพ์ที่นำมาจัดสร้างวัตถุมงคลได้แก่ ดินโป่ง 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น
ผสมลงไปในพระทุกพิมพ์ ด้านหลังองค์พระจะประทับชื่อ หลวงพ่อเต๋ กดลึกลงไปในเนื้อพระ
วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านมาจนทุกวันนี้ คือ ตุ๊กตาทอง หรือที่นิยมเรียกกันว่า กุมารทอง
ตำราการสร้างได้จากหลวงลุงแดง ประกอบด้วย ดินโป่ง 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น
มาปั้นตุ๊กตาทอง (กุมารทอง)แจกชาวบ้าน นำไปไว้เป็นเครื่องคุ้มครอง
เพราะดินดังกล่าวจะมีเทวดารักษาจึงมีความศักดิ์สิทธิ์
หลวงพ่อเต๋ปั้นแล้วเอาวางนอนไว้ จึงทำการปลุกเสกให้ลุกขึ้นเองตามตำรา
ตุ๊กตาทองนี้ นิยมกันมากใครได้ไปบูชามักจะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังเป็นที่ อัศจรรย์ ทำรายได้มหาศาล
สามารถขออะไรสำเร็จทุกอย่างและเป็นที่ศรัทธาอย่างสูงของประชาชน
ในปี พ.ศ. 2505 หลวงพ่อเต๋ ท่านได้จัดสร้างพระเครื่องเนื้อดินพิธีใหญ่อีกครั้ง เพื่อฉลองอายุครบ 5 รอบ
เนื้อดินที่ใช้ยังได้นำดินทวารวดี ที่ชำรุดหักและผงว่านผสมลงไปด้วย สังเกตเนื้อองค์พระเมื่อเผาแล้ว
เนื้อดินจะนุ่มเมื่อถูกเหงื่อถูกสัมผัส ปรากฏมวลสารและว่านแลดูเก่ามาก พิมพ์ที่จัดสร้าง มีดังนี้
1. พระรูปเหมือนซุ้มเรือนแก้ว
2. พระปรกโพธิ์ใหญ่
3. พระปรกโพธิ์เล็ก
4. พระตรีกาย (พระสาม)
5. พระทุ่งเศรษฐี
พระเครื่องเนื้อดิน 4 พิมพ์แรก ด้านหลังจะมียันต์อักขระนูน เรียกว่า ยันต์สามง่าม
เนื่องจากด้านหลังมีรูป ตรี เป็นสัญลักษณ์ของวัดสามง่ามนั่นเอง
ส่วนพระทุ่งเศรษฐี ด้านหลังมียันต์และชื่อฉายา คงทอง กดประทับลึกลงไปในเนื้อ
หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม มรณภาพลงโดยอาการสงบ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2524
รวมสิริอายุได้ 80 ปี 6 เดือน 10 วัน พรรษาที่ 59
ปัจจุบันทางวัดยังคงบรรจุสังขารของท่านไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหารวมทั้งผู้ที่ เคารพศรัทธาได้ไปกราบไหว้บูชาจนทุกวันนี้
-------------------------------
ท่านที่มีความพร้อมเรียนเชิญครับ..
รับประกันตามกฏทุกประการ |
ราคาเปิดประมูล | 150 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 330 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 30 บาท |
วันเปิดประมูล | - 02 พ.ค. 2555 - 11:48:12 น. |
วันปิดประมูล | - 03 พ.ค. 2555 - 14:55:56 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | IDUBBLEMAN (568)
|